วันจันทร์มักจะเป็นวันที่มีประชุมเยอะที่สุด
ไม่จริงมั้งพี่ ผมว่าตอนนี้วันไหน ๆ ก็ประชุมยั้วเยี้ยไปหมด แล้วบางทีนะประชุมยาวกันไปจนหมดเวลาทำงาน แล้วต้องมาทำงานกันตอนหลังเลิกงาน จริง ๆ ก็ไม่ได้เป็นเพราะ Work From Home หรอกนะ เป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรละ
ได้ทีนี่บ่นยาวเลย
ปัญหาเรื่องประชุมเยอะ ประชุมไม่เป็นเวลา คุยกันมาหลายรอบแล้วล่ะนะ หลักการมีให้อ่านเยอะแยะ ถ้าเราเองเป็นคนดูแลเรื่องวการประชุม คิดให้ดีว่าจำเป็นแค่ไหนที่ต้องประชุม ยิ่งตอนนี้เราต้องประชุมออนไลน์ แน่นอนว่าประสิทธิภาพในการประชุมน้อยกว่าการเจอกันตัวต่อตัว แต่ใช้พลังงานในการประชุมมากกว่าเดิม คิดให้ดีว่าจำเป็นแค่ไหนที่ต้องประชุม บางครั้งสิ่งที่ประชุมเนี่ย แค่ส่งอีเมลหรือไม่ก็ไลน์หากันก็พอ ไม่ต้องเสียเวลาประชุม
แล้วถ้ามีเวลา ลองคำนวณดูดี ๆ ว่าหนึ่งสัปดาห์เราใช้เวลาไปกับการประชุมกี่ชั่วโมง ถ้ารวมคนทั้งทีมคูณจำนวนชั่วโมงเข้าไป แล้วคูณด้วยค่าจ้างรายชั่วโมง เป็นเงินเท่าไหร่ เทียบกับผลลัพทธ์ที่ได้จากการประชุม
คุ้มมั้ย ไปลองคิดดูนะ
แต่ถ้าประชุมเพื่อจะดูว่าใครทำงานอยู๋หรือดูเน็ทฟลิก อันนี้ก็อีกประเด็น
แน่นอนว่าหนึ่งในเหตุผลสำคัญของการประชุมคือการตัดสินใจ ประเด็นนี้ผมว่ายังไงก็มีความสำคัญมากอยู่ ถ้าไม่ประชุม ไม่หารือ ไม่เสนอข้อดีข้อเสียที่จะเกิดขึ้น การตัดสินใจด้วยข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน ความเส่ยงที่ความผิดพลาดจะเกิดขึ้นก็มีไม่น้อย
ยุคนี้เราควรตัดสินทุกอย่างจาก Data และลดการใช้ Gut Feeling ให้เหลือน้อยที่สุด แต่ก็นั่นแหละครับ งานบางอย่าง Data ที่มีในวันนี้อาจจะยังไม่พอ ก็ต้องใช้ Gut Feeling จากประสบการณ์หรือสัญชาตญาณในการตัดสินใจ
วันไหนที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว อย่าตัดสินใจเรื่องสำคัญ
นี่คือหนึ่งเรื่องที่ผมถูกสอนมา ตั้งแต่เริ่มทำงานใหม่ ๆ และเป็นิส่งที่เตือนตัวเองบ่อย ๆ ในวันที่ยังเป็นพนักงานตัวน้อย ๆ ไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจอะไรมาก ก็ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่รู้นะว่าเมื่อไหร่ที่สภาพจิตใจเราไม่คงที่ มีผลต่องานชัดเจนเลย
สมัยที่อกหักบ่อย ๆ นี่เห็นชัดเลย ถ้ามองย้อนกลับไปดูตอนนั้นก็คงอยากจะดีดหูตัวเอง แล้วตะโกนดัง ๆ ใส่หูว่า ตั้งสติหน่อยเฮ้ย
พอโตขึ้น มีอำนาจหน้าที่มากขึ้น ถ้ารู้ตัวว่าวันพรุ่งนี้มีประชุมที่ต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญ จะเกี่ยวกับตัวงาน การดีลธุรกิจหรือแม้แต่การตัดสินคน จะเลือกคนเข้ามาทำงาน หรือจะประเมินผลงานของใครซักคน อย่างแรกที่ผมพยายามจะทำคือ นอนให้เต็มที่ ทำหัวให้โล่ง ๆ เพื่อที่จะรับฟังอย่างตั้งใจในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น สติและสมาธิจะได้อยู่กับเรื่องที่เราต้องตัดสินใจ
มีครั้งนึงที่ผมตัดสินใจงานในตอนที่อารมณ์ปั่นป่วนอยู่ แน่นอนว่าใช้หูฟังเรื่องที่เกิดขึ้นตรงหน้า แต่สมองกับหัวใจไปคิดอีกเรื่องที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ ความว้าวุ่นใจทำให้หงุดหงิดกับอะไรไม่เป็นเรื่อง แล้วก็ออกอาการพาลจนสุดท้ายเลือกที่จะตัดสินใจในทางที่กลับมาคิดได้ทีหลังว่า ถ้าตอนนั้นเราไม่ว้าวุ่นขนาดนั้น เราจะเลือกตัดสินใจอีกทาง และนั่นคือทางที่ถูกต้อง
ทุกการตัดสินใจของเรามีผลกระทบทั้งหมด แม้ว่าจะกระทบทางเราแค่เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่เราอาจจะไม่รู้เลยว่า การตัดสินใจครั้งนั้นของเรา อาจจะเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดของอีกฝั่งนึงก็ได้
มีสติทุุกครั้งที่ตัดสินใจ และเมื่อตัดสินใจอะไรไปแล้วก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปด้วยนะ
คืนนี้มี Career Talk Live ตอน 2 ทุ่ม ใครมีคำถามหรือยากปรึกษาเรื่องไหน แวะมาคุยกันได้ครับ
#HRTheNextGen
#มนุษย์เงินเดือน #HR2021